6 ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอเมริกา พร้อมเคล็ดลับแปลเอกสารยื่นวีซ่าที่คุณต้องรู้

ครบทุกขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอเมริกาและการแปลเอกสารยื่นวีซ่า

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน! วันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อที่หลายคนอาจกำลังสนใจ นั่นก็คือ "การยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอเมริกา" ซึ่งเป็นหนึ่งในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะไปสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของประเทศที่เต็มไปด้วยโอกาสและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ก่อนที่เราจะไปถึงนั้น เรามาเริ่มต้นที่ขั้นตอนพื้นฐานกันก่อนดีกว่าค่ะ

รู้จักกับวีซ่า B-1/B-2

ก่อนอื่นเลย เราต้องทำความเข้าใจว่าวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกานั้นมี 2 ประเภทหลักๆ คือวีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) และวีซ่าถาวร (Immigrant Visa) สำหรับวีซ่าที่เราจะพูดถึงวันนี้คือวีซ่า B-1/B-2 นั่นเองค่ะ

• วีซ่า B-1: สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจ เช่น ติดต่อผู้ร่วมธุรกิจ หรือต่อรองสัญญา
• วีซ่า B-2: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยว หรือเยี่ยมเพื่อนและญาติ รวมถึงการเข้ารับการรักษาพยาบาล

ตอนนี้เราก็รู้จักวีซ่าประเภท B-1/B-2 กันแล้ว เรามาดูวิธีการเตรียมตัวเพื่อยื่นขอวีซ่าว่าต้องใช้เอกสารอะไร และมีขั้นตอนอย่างไรกันบ้าง

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขอวีซ่าอเมริกาประเภท B1/B2 ควรมีอะไรบ้าง

• ไม่จำกัดอายุ แต่หากต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีความยินยอมจากผู้ปกครอง
• มีสถานะที่มั่นคงในประเทศไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคุณจะกลับมาหลังจากการเดินทาง
• สถานะการเงินที่มั่นคง พร้อมที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายในอเมริกา
• มีประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศ

เอกสารที่ต้องเตรียม

1. หนังสือเดินทางทุกเล่มที่ (ถ้ามี)
2. แบบฟอร์ม DS-160 กรอกเป็นภาษาอังกฤษ
3. ใบนัดสัมภาษณ์
4. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า
5. รูปถ่ายสี พื้นหลังสีขาว ขนาด 2×2 นิ้ว ที่อายุไม่เกิน 6 เดือน      

เอกสารเพิ่มเติมที่ควรเตรียม

• ใบรับรองการทำงานหรือการเป็นนักเรียน
• สลิปเงินเดือน 3 เดือนย้อนหลัง
• Statement 6 เดือนย้อนหลัง
• ใบรับรองสถานะการเงินจากธนาคาร
• สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน
• เอกสารเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
• แผนการเดินทาง
• รายได้ต่อปี/ใบเสียภาษีต่อปี

 ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา

1. กรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่เว็บไซต์ https://ceac.state.gov/genniv/ และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 
2. สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวที่เว็บไซต์ http://www.ustraveldocs.com/th/index.html เพื่อนัดวันสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่
3. ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา ต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร
4. เมื่อเราชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว เราสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12:00 น. (กรณีชำระด้วยเงินสด)ของวันทำการวันถัดไป หรือหลัง 14:00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (กรณีชำระด้วยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)
5. เราต้องนำใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 หนังสือเดินทาง(ทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่) รูปถ่ายสี ขนาด 2×2 พื้นหลังขาว รูปที่ถ่ายมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
6. หากสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน เราจะไม่ได้รับวีซ่าภายในวันสัมภาษณ์ เราจะได้รับเล่มหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าจากการจัดส่งทางไปรษณีย์ไทย เมื่อได้รับต้องตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องครบถ้วนทุกประการหรือไม่ *ข้อควรระวัง เราควรเผื่อเวลาในการยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนเดินทาง ไม่ควรจองตั๋วหรือวางแผนการเดินทางที่ไม่สามารถยกเลิกได้ก่อนที่เราจะได้รับหนังสือเดินทางที่มีวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโดยปกติจะลงตราประทับในหนังสือเดินทาง แต่สำหรับบางประเทศก็เริ่มใช้การลงตราแบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว 

เคล็ดลับสำคัญ: แปลเอกสารพร้อมรับรอง

เมื่อคุณเตรียมเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญคือการแปลเอกสารเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษ และต้องมีการรับรองจากผู้มีอำนาจ ซึ่งอาจรวมถึงการรับรองจากทนายความหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแปลเอกสารที่ถูกต้องและมีการรับรองที่ชัดเจนจะช่วยให้กระบวนการขอวีซ่าของคุณราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการได้รับวีซ่าค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการยื่นขอวีซ่าไปอเมริกาได้ดียิ่งขึ้นนะคะ! ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อเราได้ทุกช่องทางเลยค่ะ   

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี

Line@: @iQplus

Facebook: https://www.facebook.com/iQplustranslationcenter

Email: iqpluscenter@gmail.com

Website: https://iqplustranslation.com/